สารอาหารของพิสต้าชิโอ ถั่วเปลือก แข็งสีขาว ข้างในสีเขียว

ปริศนา ถั่วเปลือกแข็ง สีขาว ข้างในกินได้ มีสีเขียว หรือ สีขาว คือถั่วอะไรหว่า

สารอาหารของพิสต้าชิโอ

พิสต้าชิโอ้ไม่ใช่เป็นถั่ว เปลือกแข็ง เท่านั้น แต่ประโยชน์ มีมากมาย เช่น ถั่วพิสต้าชิโอ้ นี้มีไขมันที่ดีต่อสุขภาพและเป็นแหล่งโปรตีนเส้นใยและสารต้านอนุมูลอิสระด้วย ถั่วพิสต้าชิโอ้ นี้มีงานด้านวิจัยต่างๆ เป็นถั่วช่วยลดน้ำหนัก และบำรุงหัวใจด้วย

ถั่วนี้ มีมานานกว่า 7000 ซึ่งได้รับความนิยม โดยมีต้นกำเนิดในอิหร่าน พบได้ในซีเรีย เลบานอน ตุรกี กรีซ คีร์กีซสถาน เติร์กเมนิสถาน อินเดีย ปากีสถาน อียิปต์ เกาะซิซิลี และอาจจะมีในอัฟกานิสถาน

มีสารอาหารมากมาย ซึ่งโดยการรับประทาน ถั่วพิสต้าชิโอ นี้ 28 กรัม หรือ 1 ออนซ์ จะมีสารอาหารดังนี้

แคลอรี่: 156
คาร์โบไฮเดรต: 8 กรัม
ไฟเบอร์: 3 กรัม
โปรตีน: 6 กรัม
ไขมัน: 12 กรัม (90% เป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ)
โพแทสเซียม: 8% ของ RDI
ฟอสฟอรัส: 14% ของ RDI
วิตามินบี 6: 24% ของ RDI
Thiamin: 16% ของ RDI
ทองแดง: 18% ของ RDI
แมงกานีส: 17% ของ RDI

RDI ( Recommended Daily Intakes) หมายถึง ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วพิสตาชิโอเป็นหนึ่งในอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 6 มากที่สุด

วิตามินบี 6 มีความสำคัญต่อการทำงานหลายอย่างรวมถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีออกซิเจนในเซลล์เม็ดเลือดแดง

ถั่วพิสตาชิโอยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมโดยมีหนึ่งออนซ์ที่มีโพแทสเซียมมากกว่าครึ่งหนึ่งของกล้วยขนาดใหญ่

สรุป:

Pistachios มีโปรตีนเส้นใยและสารต้านอนุมูลอิสระสูง พวกเขายังมีสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ อีกมากมายรวมถึงวิตามินบี 6 และโพแทสเซียม

พิเศษ High in Antioxidants สารต้านอนุมูลอิสระสูง

สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) หมายถึงสารที่ช่วยต่อต้านหรือกำจัดอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาออกซิเดชันภายในร่างกาย ซึ่งปฏิกิริยาดังกล่าวสามารถพบได้จากหลากหลายรูปแบบตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนออกซิเดชั่นที่ทำให้เหล็กกลายเป็นสนิม น้ำมันพืชที่มีกลิ่นเหม็นหืน ผลแอปเปิลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคล้ำ

แต่หากเป็นในร่างกายเราจะพบได้จากการย่อยสลายโปรตีนและไขมัน ซึ่งมาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป การรับเอามลพิษทางอาการ ควันบุหรี่ เชื้อโรค ฝุ่นละออง การรับเอารังสียูวีจากแสงแดด หรือแม้กระทั่งการหายใจก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ กลายเป็นสารอนุมูลอิสระล่องลอยอยู่ภายในร่างกายและสร้างความเสียหายให้กับเซลล์ต่างๆ กลายเป็นอาการเจ็บป่วยและโรคภัยที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับแข็ง และโรคเบาหวาน เป็นต้น

ที่มา https://www.honestdocs.co/antioxidants-longevity

กรดอะมิโนเหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นเพราะร่างกายของคุณไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาได้ดังนั้นคุณต้องได้รับจากอาหารของคุณ

ในขณะเดียวกันกรดอะมิโนอื่น ๆ ถือเป็นกึ่งจำเป็นซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถจำเป็นภายใต้สถานการณ์บางอย่างขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละบุคคล

หนึ่งในกรดอะมิโนกึ่งจำเป็นเหล่านี้คือ L-arginine ซึ่งคิดเป็น 2% ของกรดอะมิโนในพิสตาชิโอ มันถูกแปลงเป็นไนตริกออกไซด์ในร่างกายของคุณซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้หลอดเลือดของคุณขยายตัวช่วยในการไหลเวียนของเลือด

ที่มาเพิ่มเติม https://www.healthline.com/nutrition/9-benefits-of-pistachios